Commit 1289a84f authored by Nawasan Wisitsingkhon's avatar Nawasan Wisitsingkhon

finish writing without recheck

parent 5ed9786f
\section{ระเบียบวิธี} \section{ระเบียบวิธี}
\subsection{วัตถุประสงค์} \subsection{วัตถุประสงค์}
\indent\indent
\gls{sdn} นั้นมีการใช้งานและการตั้งค่าที่หลากหลาย \gls{sdn} นั้นมีการใช้งานและการตั้งค่าที่หลากหลาย
ไม่ว่าจะเพื่อให้เหมาะกับ \gls{network-system} ขององค์กรหรือหน่วยงานของตน ยังต้องช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ\gls{network-system}อีกด้วย ไม่ว่าจะเพื่อให้เหมาะกับ \gls{network-system} ขององค์กรหรือหน่วยงานของตน ยังต้องช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ\gls{network-system}อีกด้วย
นอกจากนั้น \gls{sdn} ยังถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันการโจมตีผ่าน\gls{network-system} ไม่ว่าจะเป็น Dos หรือ DDos นอกจากนั้น \gls{sdn} ยังถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันการโจมตีผ่าน\gls{network-system} ไม่ว่าจะเป็น Dos หรือ DDos
...@@ -47,7 +46,6 @@ Vscode 1.86.1 ...@@ -47,7 +46,6 @@ Vscode 1.86.1
เป็น\gls{software}อีกตัวหนึ่งที่ใช้ในการแก้ไขไฟล์ข้อความซึ่งมีส่วนเสริมที่ช่วยในการเขียน ซึ่งในการทดลองนี้จะนำมาใช้ในการแก้ไขไฟล์สคริปต์ของ Python ในกรณีที่ต้องการความแม่นยำหรือแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เป็น\gls{software}อีกตัวหนึ่งที่ใช้ในการแก้ไขไฟล์ข้อความซึ่งมีส่วนเสริมที่ช่วยในการเขียน ซึ่งในการทดลองนี้จะนำมาใช้ในการแก้ไขไฟล์สคริปต์ของ Python ในกรณีที่ต้องการความแม่นยำหรือแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
\newline \newline
\subsection{รูปแบบในการทดลอง} \subsection{รูปแบบในการทดลอง}
\indent\indent
ในการจะทำการทดลองนั้นจำเป็นต้องมี python script ที่ใช้ในการสร้าง topology จำลองบน mininet ในการจะทำการทดลองนั้นจำเป็นต้องมี python script ที่ใช้ในการสร้าง topology จำลองบน mininet
ซึ่งต้องสร้างทั้งแบบ Single Controller และ Multi Controllers โดยสามารถใช้ mininet gui สร้างได้ ตามภาพด้านล่างนี้ ซึ่งต้องสร้างทั้งแบบ Single Controller และ Multi Controllers โดยสามารถใช้ mininet gui สร้างได้ ตามภาพด้านล่างนี้
หรือสามารถดาวน์โหลดไฟล์ scripts ได้ที่ http://projectcs.sci.ubu.ac.th/nawasan/sdn-topo-mininet หรือสามารถดาวน์โหลดไฟล์ scripts ได้ที่ http://projectcs.sci.ubu.ac.th/nawasan/sdn-topo-mininet
...@@ -101,12 +99,12 @@ Vscode 1.86.1 ...@@ -101,12 +99,12 @@ Vscode 1.86.1
รูปแบบที่ 2. คือ ทำการทดสอบโดยจำแพ็กเก็ตจำนวน 1,000,000 และ 2,000,000 แพ็กเก็ต รูปแบบที่ 2. คือ ทำการทดสอบโดยจำแพ็กเก็ตจำนวน 1,000,000 และ 2,000,000 แพ็กเก็ต
จากนั้นนำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบหาประสิทธิภาพด้านเวลาและการตรวจจับการโจมตี จากนั้นนำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบหาประสิทธิภาพด้านเวลาและการตรวจจับการโจมตี
\\\\ \\
สาเหตุที่มีการทดลองสองรูปแบบนั้นก็เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบมีความถูกต้องน่าเชื่อถือ สาเหตุที่มีการทดลองสองรูปแบบนั้นก็เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบมีความถูกต้องน่าเชื่อถือ
เป็นต้นว่าหากผลการทดสองจากทั้งสองรูปแบบสอดคล้องกัน ก็สามารถเชื่อได้ว่าผลการทดลองนั้นถูกต้อง นอกจากนั้นผู้ทำการทดลองยังได้กำหนดให้ลำดับวิธีของทั้ง 2 รูปแบบการทดลองมีความต่างกันในบางขั้นตอน เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและความถูกต้องมากขั้นไปอีก เป็นต้นว่าหากผลการทดสองจากทั้งสองรูปแบบสอดคล้องกัน ก็สามารถเชื่อได้ว่าผลการทดลองนั้นถูกต้อง นอกจากนั้นผู้ทำการทดลองยังได้กำหนดให้ลำดับวิธีของทั้ง 2 รูปแบบการทดลองมีความต่างกันในบางขั้นตอน เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและความถูกต้องมากขั้นไปอีก
\\\\ \\
\subsection{ขั้นตอนลำดับวิธีทดลอง} \subsection{ขั้นตอนลำดับวิธีทดลอง}
\indent\indent
ในการทดลอง ขั้นตอนลำดับจะต่างกันในส่วนของรูปแบบการทดลองเท่านั้น โดยที่เงื่อนไขต่างๆ จะยังคงมีลำดับการทดลองที่เหมือนกัน กล่าวคือในเงื่อนไขการทดลองนั้นจะต่างกันก็เพียงแต่ไฟล์ที่ทำการรันเท่านั้น โดยที่ลำดับขั้นตอนจะยังคงเหมือนเดิม ในการทดลอง ขั้นตอนลำดับจะต่างกันในส่วนของรูปแบบการทดลองเท่านั้น โดยที่เงื่อนไขต่างๆ จะยังคงมีลำดับการทดลองที่เหมือนกัน กล่าวคือในเงื่อนไขการทดลองนั้นจะต่างกันก็เพียงแต่ไฟล์ที่ทำการรันเท่านั้น โดยที่ลำดับขั้นตอนจะยังคงเหมือนเดิม
ในแต่ละเงิ่อนไขการทดลองจะทำการรันทดสอบ 3 รอบ และเลือกค่ากลางมาทำการวิเคราะห์ กล่าวคือ เลือกค่าที่ไม่น้อยที่สุดและไม่มากที่สุดจากค่าที่ได้จากการทดสอบ ในแต่ละเงิ่อนไขการทดลองจะทำการรันทดสอบ 3 รอบ และเลือกค่ากลางมาทำการวิเคราะห์ กล่าวคือ เลือกค่าที่ไม่น้อยที่สุดและไม่มากที่สุดจากค่าที่ได้จากการทดสอบ
......
This diff is collapsed.
...@@ -4,7 +4,6 @@ ...@@ -4,7 +4,6 @@
\contentsline {subsection}{\numberline {1.3}รูปแบบในการทดลอง}{2}{subsection.1.3}% \contentsline {subsection}{\numberline {1.3}รูปแบบในการทดลอง}{2}{subsection.1.3}%
\contentsline {subsection}{\numberline {1.4}ขั้นตอนลำดับวิธีทดลอง}{4}{subsection.1.4}% \contentsline {subsection}{\numberline {1.4}ขั้นตอนลำดับวิธีทดลอง}{4}{subsection.1.4}%
\contentsline {section}{\numberline {2}ผลลัพธ์และการอภิปราย (Results and discussion)}{7}{section.2}% \contentsline {section}{\numberline {2}ผลลัพธ์และการอภิปราย (Results and discussion)}{7}{section.2}%
\contentsline {subsection}{\numberline {2.1}ผลลัพธ์การทดลองรูปแบบที่ 1}{7}{subsection.2.1}% \contentsline {subsection}{\numberline {2.1}ผลลัพธ์การทดลอง}{7}{subsection.2.1}%
\contentsline {subsection}{\numberline {2.2}ผลลัพธ์ประสิทธิภาพด้านการตรวจจับการโจมตี}{7}{subsection.2.2}% \contentsline {subsection}{\numberline {2.2}สรุปผลการทดลอง}{9}{subsection.2.2}%
\contentsline {subsection}{\numberline {2.3}สรุปผลการทดลอง}{8}{subsection.2.3}% \contentsline {subsection}{\numberline {2.3}ข้อเสนอแนะ}{10}{subsection.2.3}%
\contentsline {subsection}{\numberline {2.4}ข้อเสนอแนะ}{8}{subsection.2.4}%
No preview for this file type
Markdown is supported
0% or
You are about to add 0 people to the discussion. Proceed with caution.
Finish editing this message first!
Please register or to comment