Commit 1289a84f authored by Nawasan Wisitsingkhon's avatar Nawasan Wisitsingkhon

finish writing without recheck

parent 5ed9786f
\section{ระเบียบวิธี} \section{ระเบียบวิธี}
\subsection{วัตถุประสงค์} \subsection{วัตถุประสงค์}
\indent\indent
\gls{sdn} นั้นมีการใช้งานและการตั้งค่าที่หลากหลาย \gls{sdn} นั้นมีการใช้งานและการตั้งค่าที่หลากหลาย
ไม่ว่าจะเพื่อให้เหมาะกับ \gls{network-system} ขององค์กรหรือหน่วยงานของตน ยังต้องช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ\gls{network-system}อีกด้วย ไม่ว่าจะเพื่อให้เหมาะกับ \gls{network-system} ขององค์กรหรือหน่วยงานของตน ยังต้องช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ\gls{network-system}อีกด้วย
นอกจากนั้น \gls{sdn} ยังถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันการโจมตีผ่าน\gls{network-system} ไม่ว่าจะเป็น Dos หรือ DDos นอกจากนั้น \gls{sdn} ยังถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันการโจมตีผ่าน\gls{network-system} ไม่ว่าจะเป็น Dos หรือ DDos
...@@ -47,7 +46,6 @@ Vscode 1.86.1 ...@@ -47,7 +46,6 @@ Vscode 1.86.1
เป็น\gls{software}อีกตัวหนึ่งที่ใช้ในการแก้ไขไฟล์ข้อความซึ่งมีส่วนเสริมที่ช่วยในการเขียน ซึ่งในการทดลองนี้จะนำมาใช้ในการแก้ไขไฟล์สคริปต์ของ Python ในกรณีที่ต้องการความแม่นยำหรือแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เป็น\gls{software}อีกตัวหนึ่งที่ใช้ในการแก้ไขไฟล์ข้อความซึ่งมีส่วนเสริมที่ช่วยในการเขียน ซึ่งในการทดลองนี้จะนำมาใช้ในการแก้ไขไฟล์สคริปต์ของ Python ในกรณีที่ต้องการความแม่นยำหรือแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
\newline \newline
\subsection{รูปแบบในการทดลอง} \subsection{รูปแบบในการทดลอง}
\indent\indent
ในการจะทำการทดลองนั้นจำเป็นต้องมี python script ที่ใช้ในการสร้าง topology จำลองบน mininet ในการจะทำการทดลองนั้นจำเป็นต้องมี python script ที่ใช้ในการสร้าง topology จำลองบน mininet
ซึ่งต้องสร้างทั้งแบบ Single Controller และ Multi Controllers โดยสามารถใช้ mininet gui สร้างได้ ตามภาพด้านล่างนี้ ซึ่งต้องสร้างทั้งแบบ Single Controller และ Multi Controllers โดยสามารถใช้ mininet gui สร้างได้ ตามภาพด้านล่างนี้
หรือสามารถดาวน์โหลดไฟล์ scripts ได้ที่ http://projectcs.sci.ubu.ac.th/nawasan/sdn-topo-mininet หรือสามารถดาวน์โหลดไฟล์ scripts ได้ที่ http://projectcs.sci.ubu.ac.th/nawasan/sdn-topo-mininet
...@@ -101,12 +99,12 @@ Vscode 1.86.1 ...@@ -101,12 +99,12 @@ Vscode 1.86.1
รูปแบบที่ 2. คือ ทำการทดสอบโดยจำแพ็กเก็ตจำนวน 1,000,000 และ 2,000,000 แพ็กเก็ต รูปแบบที่ 2. คือ ทำการทดสอบโดยจำแพ็กเก็ตจำนวน 1,000,000 และ 2,000,000 แพ็กเก็ต
จากนั้นนำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบหาประสิทธิภาพด้านเวลาและการตรวจจับการโจมตี จากนั้นนำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบหาประสิทธิภาพด้านเวลาและการตรวจจับการโจมตี
\\\\ \\
สาเหตุที่มีการทดลองสองรูปแบบนั้นก็เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบมีความถูกต้องน่าเชื่อถือ สาเหตุที่มีการทดลองสองรูปแบบนั้นก็เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบมีความถูกต้องน่าเชื่อถือ
เป็นต้นว่าหากผลการทดสองจากทั้งสองรูปแบบสอดคล้องกัน ก็สามารถเชื่อได้ว่าผลการทดลองนั้นถูกต้อง นอกจากนั้นผู้ทำการทดลองยังได้กำหนดให้ลำดับวิธีของทั้ง 2 รูปแบบการทดลองมีความต่างกันในบางขั้นตอน เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและความถูกต้องมากขั้นไปอีก เป็นต้นว่าหากผลการทดสองจากทั้งสองรูปแบบสอดคล้องกัน ก็สามารถเชื่อได้ว่าผลการทดลองนั้นถูกต้อง นอกจากนั้นผู้ทำการทดลองยังได้กำหนดให้ลำดับวิธีของทั้ง 2 รูปแบบการทดลองมีความต่างกันในบางขั้นตอน เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและความถูกต้องมากขั้นไปอีก
\\\\ \\
\subsection{ขั้นตอนลำดับวิธีทดลอง} \subsection{ขั้นตอนลำดับวิธีทดลอง}
\indent\indent
ในการทดลอง ขั้นตอนลำดับจะต่างกันในส่วนของรูปแบบการทดลองเท่านั้น โดยที่เงื่อนไขต่างๆ จะยังคงมีลำดับการทดลองที่เหมือนกัน กล่าวคือในเงื่อนไขการทดลองนั้นจะต่างกันก็เพียงแต่ไฟล์ที่ทำการรันเท่านั้น โดยที่ลำดับขั้นตอนจะยังคงเหมือนเดิม ในการทดลอง ขั้นตอนลำดับจะต่างกันในส่วนของรูปแบบการทดลองเท่านั้น โดยที่เงื่อนไขต่างๆ จะยังคงมีลำดับการทดลองที่เหมือนกัน กล่าวคือในเงื่อนไขการทดลองนั้นจะต่างกันก็เพียงแต่ไฟล์ที่ทำการรันเท่านั้น โดยที่ลำดับขั้นตอนจะยังคงเหมือนเดิม
ในแต่ละเงิ่อนไขการทดลองจะทำการรันทดสอบ 3 รอบ และเลือกค่ากลางมาทำการวิเคราะห์ กล่าวคือ เลือกค่าที่ไม่น้อยที่สุดและไม่มากที่สุดจากค่าที่ได้จากการทดสอบ ในแต่ละเงิ่อนไขการทดลองจะทำการรันทดสอบ 3 รอบ และเลือกค่ากลางมาทำการวิเคราะห์ กล่าวคือ เลือกค่าที่ไม่น้อยที่สุดและไม่มากที่สุดจากค่าที่ได้จากการทดสอบ
......
\section{ผลลัพธ์และการอภิปราย (Results and discussion)} \section{ผลลัพธ์และการอภิปราย (Results and discussion)}
\indent\indent
เหตุผลที่ต้องทำการรัน 3 รอบ ในแต่ละเงื่อนไข เนื่องมาจากในขั้นตอนการเตรียมเครื่องมือและซอฟต์แวร์นั้นได้มีการรันทดสอบ และพบว่าค่ามีความแกว่งในบางครั้ง โดยในการรันครั้งแรกดรอปแพ็กเกจได้ 8\% ในการรันครั้งที่ 2 อาจจะเพิ่มเป็น 30\% หรือ 35\% เหตุผลที่ต้องทำการรัน 3 รอบ ในแต่ละเงื่อนไข เนื่องมาจากในขั้นตอนการเตรียมเครื่องมือและซอฟต์แวร์นั้นได้มีการรันทดสอบ และพบว่าค่ามีความแกว่งในบางครั้ง โดยในการรันครั้งแรกดรอปแพ็กเกจได้ 8\% ในการรันครั้งที่ 2 อาจจะเพิ่มเป็น 30\% หรือ 35\%
ดังนั้นจึงได้มีการออกแบบขั้นตอนการทดลองที่เหมือนกันมากที่สุดเพื่อลดปัจจัยที่อาจจะกระทบและทำให้ผลลัพธ์เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นจึงได้มีการรันทดสอบ 3 รอบของแต่ละรูปแบบเพื่อลดโอกาสที่ค่าจะออกมาคลาดเคลื่อนหรือผิดไปจากที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงได้มีการออกแบบขั้นตอนการทดลองที่เหมือนกันมากที่สุดเพื่อลดปัจจัยที่อาจจะกระทบและทำให้ผลลัพธ์เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นจึงได้มีการรันทดสอบ 3 รอบของแต่ละรูปแบบเพื่อลดโอกาสที่ค่าจะออกมาคลาดเคลื่อนหรือผิดไปจากที่ควรจะเป็น
และในการรันทดสอบนั้นมีการจับแพ็กเก็ตด้วย wireshark ที่ s4-eth1 และ s11-eth2 ซึ่งทำให้มี 2 ค่าที่เกิดขึ้นจากทั้ง 2 ขาของการจับแพ็กเกจ ทางผู้ทดลองต้องการทำให้เป็นค่าเพียงหนึ่งค่า และในการรันทดสอบนั้นมีการจับแพ็กเก็ตด้วย wireshark ที่ s4-eth1 และ s11-eth2 ซึ่งทำให้มี 2 ค่าที่เกิดขึ้นจากทั้ง 2 ขาของการจับแพ็กเกจ ทางผู้ทดลองต้องการทำให้เป็นค่าเพียงหนึ่งค่า
จึงจะทำการรวมค่าจาก s4-eth1 และ s11-eth2 ให้เป็นค่าหนึ่งโดยการบวก และในการรันทดสอบ 3 ครั้งนั้น จึงจะทำการรวมค่าจาก s4-eth1 และ s11-eth2 ให้เป็นค่าหนึ่งโดยการบวก และในการรันทดสอบ 3 ครั้งนั้น
ผู้ทำการทดลองพิจารณาแล้วว่าจะเลือกค่าอัตราการดรอปแพ็กเกจที่เป็นค่ากลางมาใช้ในการวิเคราะห์ ผู้ทำการทดลองพิจารณาแล้วว่าจะเลือกค่าอัตราการดรอปแพ็กเกจที่เป็นค่ากลางมาใช้ในการวิเคราะห์
\\ \\
\subsection{ผลลัพธ์การทดลองรูปแบบที่ 1} \subsection{ผลลัพธ์การทดลอง}
\subsubsection*{ผลลัพธ์ด้านเวลา} \subsubsection*{ผลลัพธ์ด้านเวลา}
ผลลัพธ์การรันทดสอบการโจมตีในด้านประสิทธิภาพเวลา มีผลลัพธ์เป็นดังนี้ %%%%%
Group table แบบ Single Controller (A1) มีค่า time span เท่ากับ 18.7 %
Group table แบบ Multi Controllers (A2) มีค่า time span เท่ากับ 21.5 %% Here
Proxy Arp แบบ Single Controller (A3) มีค่า time span เท่ากับ 14.1 %
Proxy Arp แบบ Multi Controllers (A4) มีค่า time span เท่ากับ 22.3 %%%%%
ในการทดสอบรูปแบบที่ 1 มีการจับแพ็กเก็ตหลายระดับ จึงอาจจะทำให้แพ็กเก็จจำนวนมากกว่าจะใช้เวลามากกว่า
จึงได้ใช้สูตรคำนวนเพื่อให้สามารถเทียบวัดได้ โดยใช้สูตร
$$P=t \times \frac{m}{d}$$
\begin{figure}[h] โดยที่ P คือค่าคะแนน t คือเวลาที่ได้จากการวัด m คือจำนวนแพ็กเก็ตมากที่สุดที่ทำการวัด d คือจำนวนแพ็กเก็ตที่วัดในรอบนั้น
\begin{figure}[h!]
\centering \centering
\begin{tikzpicture} \begin{tikzpicture}
\begin{axis}[ \begin{axis}[
title=\textbf{ประสิทธิภาพด้านเวลา}, title=\textbf{ประสิทธิภาพด้านเวลา การทดลองรูปแบบที่ 1},
width=0.8\textwidth, width=0.8\textwidth,
height=0.5\textwidth, height=0.5\textwidth,
x tick label style={ x tick label style={
/pgf/number format/1000 sep=}, /pgf/number format/1000 sep=},
legend style={at={(0,1)}, legend style={at={(1,1)},
anchor=north west}, anchor=north east},
ylabel=time (s), xlabel=packet,
ylabel=P (ยิ่งน้อยยิ่งดี),
% ybar interval=0.7, % ybar interval=0.7,
ybar, % ybar,
ymax=50, ymax=50,
ymin=0, ymin=0,
% nodes near coords,
% nodes near coords align={vertical},
% bar width=0.7em,
symbolic x coords={ symbolic x coords={
100000, 100000,
250000, 250000,
...@@ -76,88 +78,236 @@ Proxy Arp แบบ Multi Controllers (A4) มีค่า time span เท่ ...@@ -76,88 +78,236 @@ Proxy Arp แบบ Multi Controllers (A4) มีค่า time span เท่
(750000,29.342) (750000,29.342)
(1000000,21.489) (1000000,21.489)
}; };
\legend{
A1,A2,A3,A4
}
\end{axis}
\end{tikzpicture}
\caption{แผนภูมิแสดงผลลัพธ์ประสิทธิภาพด้านเวลาของการทดลองรูปแบบที่ 1}
\label{img:graph_time_1}
\end{figure}
จากรูปภาพที่ \ref{img:graph_time_1} (A1) มีประสิทธิภาพไม่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญเมื่อแพ็กเก็ตเพิ่มขึ้น แต่มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อแพ็กเก็ตเพิ่มขึ้น
(A2) มีแนวโน้มมีประสิทธิภาพน้อยลงเมื่อแพ็กเก็ตเพิ่มขึ้น แต่ไม่สม่ำเสมอ
(A3) ประสิทธิภาพดีขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่มีนัยสำคัญเมื่อแพ็กเก็ตเพิ่มขึ้น
(A4) มีประสิทธิภาพดีขึ้นเมื่อแพ็กเก็ตเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มประสิทธิภาพจะดีขึ้นอีก เมื่อแพ็กเก็ตเพิ่มขึ้น
\begin{figure}[h!]
\centering
\begin{tikzpicture}
\begin{axis}[
title=\textbf{ประสิทธิภาพด้านเวลา การทดลองรูปแบบที่ 2},
width=0.8\textwidth,
height=0.5\textwidth,
x tick label style={
/pgf/number format/1000 sep=},
legend style={at={(1,1)},
anchor=north east},
xlabel=packet,
ylabel=P (ยิ่งน้อยยิ่งดี),
% ybar interval=0.7,
% ybar,
ymax=50,
ymin=0,
symbolic x coords={
1000000,
2000000
},
xtick=data,
enlarge x limits=0.15,
]
\addplot coordinates {
% group table single
(1000000,27.994)
(2000000,21.84)
};
\addplot coordinates {
% group table multiple
(1000000,29.55)
(2000000,13.319)
};
\addplot coordinates {
% arp proxy single
(1000000,21.66)
(2000000,23.125)
};
\addplot coordinates {
% arp proxy multiple
(1000000,18.478)
(2000000,17.851)
};
\legend{
A1,A2,A3,A4
}
\end{axis}
\end{tikzpicture}
\caption{แผนภูมิแสดงผลลัพธ์ประสิทธิภาพด้านเวลาของการทดลองรูปแบบที่ 2}
\label{img:graph_time_2}
\end{figure}
จากรูปภาพที่ \ref{img:graph_time_2} (A1) มีประสิทธิภาพดีขึ้นเมื่อแพ็กเก็ตเพิ่มขึ้น
(A2) มีประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อแพ็กเก็ตเพิ่มขึ้น
(A3) ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่มีนัยสำคัญ
(A4) ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด อาจกล่าวได้ว่าประสิทธิภาพเท่าเดิม
\subsubsection*{ผลลัพธ์ประสิทธิภาพด้านการตรวจจับการโจมตี}
% attack table
\begin{figure}[h!]
\centering
\begin{tikzpicture}
\begin{axis}[
title=\textbf{ประสิทธิการตรวจจับการโจมตี การทดลองรูปแบบที่ 1},
width=0.8\textwidth,
height=0.5\textwidth,
x tick label style={
/pgf/number format/1000 sep=},
legend style={at={(1,1)},
anchor=north east},
xlabel=packet,
ylabel=droped packet (\%),
% ybar interval=0.7,
% ybar,
ymax=30,
ymin=0,
symbolic x coords={
100000,
250000,
500000,
750000,
1000000
},
xtick=data,
enlarge x limits=0.15,
]
\addplot coordinates {
% group table single
(100000,21.6)
(250000,17.2)
(500000,14.9)
(750000,5.8)
(1000000, 11.3)
};
\addplot coordinates {
% group table multiple
(100000,9.8)
(250000,4.4)
(500000,8)
(750000,4.5)
(1000000,4)
};
\addplot coordinates {
% arp proxy single
(100000,20.9)
(250000,10.7)
(500000,7.5)
(750000,7.7)
(1000000,8)
};
\addplot coordinates {
% arp proxy multiple
(100000,8.1)
(250000,10.9)
(500000,5.4)
(750000,9.3)
(1000000,6.1)
};
\legend{ \legend{
A1,A2,A3,A4 A1,A2,A3,A4
% 100\,000 packet,
% 250\,000 packet,
% 500\,000 packet,
% 750\,000 packet,
% 1\,000\,000 packet,
} }
% \legend{Men,Women}
\end{axis} \end{axis}
\end{tikzpicture} \end{tikzpicture}
\caption{แผนภูมิแสดงผลลัพธ์ประสิทธิภาพด้านเวลา} \caption{แผนภูมิแสดงผลลัพธ์ประสิทธิภาพด้านการตรวจจับการโจมตีของการทดลองรูปแบบที่ 1}
\label{img:graph_atk_1}
\end{figure} \end{figure}
\subsection{ผลลัพธ์ประสิทธิภาพด้านการตรวจจับการโจมตี} จากรูปที่ \ref*{img:graph_atk_1} จะเห็นว่า (A1) มีประสิทธิภาพการตรวจจับที่น้อยลงเมื่อแพ็กเก็ตเพิ่มขึ้น
\indent\indent (A2) มีประสิทธิภาพไม่คงที่ในแต่ละจำนวนแพ็กเก็ต และไม่มีความต่างอย่างมีนัยสำคัญ
ผลลัพธ์การรันทดสอบการโจมตีในด้านประสิทธิภาพการตรวจจับการโจมตี มีผลลัพธ์เป็นดังนี้ (A3) มีประสิทธิภาพน้อยลงเมื่อแพ็กเก็ตเพิ่มขึ้น แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งประสิทธิภาพจะไม่ลดลงอีก
Group table แบบ Single Controller (A1) มีค่า droped packages เท่ากับ 8.7\% (A4) มีประสิทธิภาพไม่คงที่ และไม่มีแนวโน้มจะลดลงหรือเพิ่มขึ้น
Group table แบบ Multi Controllers (A2) มีค่า droped packages เท่ากับ 20.4\%
Proxy Arp แบบ Single Controller (A3) มีค่า droped packages เท่ากับ 6.3\%
Proxy Arp แบบ Multi Controllers (A4) มีค่า droped packages เท่ากับ 19.4\%
\\
\begin{figure}[h!] \begin{figure}[h!]
\centering \centering
\begin{tikzpicture} \begin{tikzpicture}
\begin{axis}[ \begin{axis}[
title=\textbf{ประสิทธิภาพด้านการตรวจจับการโจมตี}, title=\textbf{ประสิทธิการตรวจจับการโจมตี การทดลองรูปแบบที่ 2},
ylabel=droped packages (\%), width=0.8\textwidth,
ybar, height=0.5\textwidth,
x tick label style={
/pgf/number format/1000 sep=},
legend style={at={(1,1)},
anchor=north east},
xlabel=packet,
ylabel=droped packet (\%),
% ybar interval=0.7,
% ybar,
ymax=30, ymax=30,
ymin=0, ymin=0,
nodes near coords, symbolic x coords={
nodes near coords align={vertical}, 1000000,
bar width=1em, 2000000
symbolic x coords={A1,A2,A3,A4}, },
xtick=data, xtick=data,
enlarge x limits=0.5, enlarge x limits=0.15,
] ]
\addplot[fill=red] coordinates { \addplot coordinates {
(A1,8.7) % group table single
(A2,20.4) (1000000, 8.1)
(A3,6.3) (2000000, 10.5)
(A4,19.4) };
}; \addplot coordinates {
% \legend{A1,A2,A3,A4} % group table multiple
% \legend{Men,Women} (1000000,12.5)
(2000000,21)
};
\addplot coordinates {
% arp proxy single
(1000000,12.4)
(2000000,16.5)
};
\addplot coordinates {
% arp proxy multiple
(1000000,20.3)
(2000000, 12.4)
};
\legend{
A1,A2,A3,A4
}
\end{axis} \end{axis}
\end{tikzpicture} \end{tikzpicture}
\caption{แผนภูมิแสดงผลลัพธ์ประสิทธิภาพด้านการตรวจจับการโจมตี} \caption{แผนภูมิแสดงผลลัพธ์ประสิทธิภาพด้านการตรวจจับการโจมตีของการทดลองรูปแบบที่ 2}
\label{img:graph_atk_2}
\end{figure} \end{figure}
จากรูปภาพที่ \ref{img:graph_atk_2} (A1) มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเมื่อแพ็กเก็ตเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
(A2) ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีแนวโน้มอย่างสูงว่าประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นอีกหากแพ็กเก็ตเพิ่มขึ้น
(A3) มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเมื่อแพ็กเก็ตเพิ่มขึ้น มีแนวโน้มเล็กน้อยว่าประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นอีก
(A4) มีประสิทธิภาพลดลงเมื่อแพ็กเก็ตเพิ่มขึ้น ซึ่งสวนทางกับเงื่อนไขอื่นอย่างเห็นได้ชัด
\\
% \clearpage % \clearpage
\subsection{สรุปผลการทดลอง} \subsection{สรุปผลการทดลอง}
\indent\indent
จากผลลัพธ์ที่ได้รายงานข้างต้น จะสังเกตได้ว่าในประสิทธิภาพด้านเวลานั้นไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก แต่ก็พอจะกล่าวได้ว่าการใช้ Proxy Arp นั้นให้ประสิทธิภาพด้านความเร็วที่มากกว่า group table รวมไปถึงการใช้ Multi Controller ก็ให้ประสิทธิภาพด้านความเร็วที่มากกว่า Single Controllers
และหากพิจารณาระหว่าง group table และ proxy arp บน Single Controller จะเห็นได้ว่า Proxy arp ให้ประสิทธิภาพด้านความเร็วอย่างเห็นได้ชัด
แต่หากพิจารณาบน Muti Controllers ก็จะพบว่าไม่ได้มีความต่างเท่าใดนัก อาจกล่าวได้ว่าให้ประสิทธิภาพที่เท่าๆ กัน
\\\indent
ในประสิทธิภาพด้านการตรวจจับการโจมตีนั้น จะสังเกตได้ว่า ทั้ง Group table และ Proxy arp ไม่ได้มีความต่างอย่างมีนัยสำคัญ แต่ว่าสิ่งที่ต่างอย่างเห็นได้ชัดเจนคือการรันแบบ Single Controller และ Multi Controllers โดยการรันแบบ Multi Controllers จะสามารถตรวจจับการโจมตีและทำการ drop packages ได้มากกว่าการรันแบบ Single Controller
ดังนั้นหากพิจารณาต้องการการตรวจจับและป้องกันการโจมตี การรันด้วย Multi Controllers ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
\\
\subsection{ข้อเสนอแนะ}
\indent\indent
ในการทดลองครั้งนี้ถูกรันบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์จำลอง และสร้าง Topology จำลองขึ้น นอกจากนั้นการออกแบบขั้นตอนการทดลองยังคงไม่รัดกุมและชัดเจนมากเท่าที่ควร
ซึ่งอาจจะทำให้ผลลัพธ์คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง อาจกล่าวได้ว่าการทดลองนี้เป็นเพียงการทดลองเบื้องต้นเพียงเท่านั้น
ดังนั้นผู้อ่านจึงต้องมีความระมัดระวัง และรอบคอบในการนำไปใช้
\begin{comment} จากที่ได้กล่าวไปว่า การที่ต้องทดลอง 2 รูปแบบ ก็เพื่อที่จะเปรียบเทียบและเพิ่มความถูกต้อง
เป็นต้นว่า หากทั้งสองรูปแบบสอดคล้องกัน ก็เป็นที่น่าเชื่อว่าผลการทดลองนั้นออกมาถูกต้อง
แต่หากทั้งสองรูปแบบออกมาขัดแย้งกัน ก็เป็นไปได้ว่าการทดลองนี้ไม่ถูกต้อง หรือมีข้อผิดพลาด
ดังนั้น ในการที่จะสามารถบอกได้ชัดเจนเกี่ยวกับผลทดลองนั้น จำเป็นต้องดูทั้ง 2 รูปแบบประกอบกัน
group_single 8.7 80.4 44.2 | 44.4 | 8.7 โดยในประสิทธิภาพด้านเวลานั้น จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า (A2) นั้นผลออกมาขัดแย้งกันอย่างชัดเจน จึงกล่าวได้ว่า ผลลัพธ์การทดสอบของ (A2) นั้นมีความน่าเชื่อถือต่ำ
group_single 18.7 8.4 6.8 | 18.7 หรืออาจจะมีข้อผิดพลาดในการทดลอง จึงไม่อาจจะนำ (A2) ไปใช้ในการวิเคราะห์อื่นๆ ได้
ส่วนในผลลัพธ์อื่นๆ นั้น จะเห็นว่าทั้ง 2 รูปแบบไม่ได้ขัดแย้งกันอย่างชัดเจน ผลลัพธ์จึงมีความน่าเชื่อถือ
โดย (A4) นั้นมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเมื่อแพ็กเก็ตมีจำนวนเพิ่มขึ้น ส่วนที่เหลือนั้นไม่ได้มีความต่างอย่างชัดเจน
สามารถกล่าวได้ว่า (A4) ให้ประสิทธิภาพด้านเวลาดีที่สุด
group_multi 32.5 31.2 20.4 | 28.0 | 20.4 ในประสิทธิภาพด้านการตรวจจับการทดลองนั้น จะเห็นได้อย่างชัดเจนเช่นเดียวกับประสิทธิภาพด้านเวลา ว่า (A2) นั้นมีผลลัพธ์ที่ขัดแย้งกันจากทัง 2 รูปแบบ ดังนั้น (A2) จึงมีความน่าเชื่อถือต่ำ
group_multi 23.5 21.8 21.5 | 21.5 ในส่วน (A1) นั้น แม้ดูมีแนวโน้มว่าจะขัดแย้งกัน แต่เมื่อพิจารณาผลลัพธ์ในรูปแบบที่ 2 แล้ว ค่ามีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียงเท่านั้น ทำให้ยังไม่ได้มีความขัดแย้งอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนอื่นๆ นั้น ถือว่าค่อนข้างมีความสอดคล้องกัน โดยที่ไม่ได้มีข้อใดมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด หากดูตามกราฟแล้ว พอจะพูดได้ว่า (A3) ให้ประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีที่สุด
arp_single 12 6.3 70.3 | 29.5 | 6.3 ประสิทธิภาพด้านการตรวจจับการโจมตีนั้น แม้จะไม่ได้มีความขัดแย้งกันอย่างชัดเจน แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันมากนัก ดังนั้นจึงต้องมีความระมัดระวังมากเป็นพิเศษในการนำผลลัพธ์ด้านการตรวจจับแพ็กเก็ตไปวิเคราะห์ โดยหากต้องการนำข้อมูลใดๆ ไปวิเคราะห์หรือประกอบการตัดสินใจ แนะนำให้พิจารณาเลือกรูปแบบที่ 2 เป็นอันดับแรก
arp_single 19.2 14.1 7.8 | 14.1 เพราะมีช่วงจำนวนการจับแพ็กเก็ตมากกว่า
\\
arp_multi 37.2 25.6 19.4 | 27.4 | 19.4 \subsection{ข้อเสนอแนะ}
arp_multi 24.1 25.5 22.3 | 22.3
\end{comment} ในการทดลองนี้ แม้ผู้ทำการทดลองจะออกแบบการทดลองให้มีความรัดกุม และเข้มงวดมากที่สุด
\ No newline at end of file แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีข้อผิดพลาด หรือผลลัพธ์ที่คลาดเคลื่อน แม้แต่ผลลัพธ์ที่ไม่สอดคล้องเองก็ตาม
อย่างไรก็ดี หากต้องการนำผลการทดลองไปใช้ ควรทำการทดสอบและวัดผลด้วยตัวเอง ตามวิธีที่เขียนไว้ หรืออาจจะวิธีการอื่นที่ดีกว่า ซึ่งอาจจะเพิ่มความรัดกุมขึ้นอีก
หรือเพิ่มความแม่นยำของผลลัพธ์ โดยอิงตามทฤษฎีมากขึ้น และควบคุมตัวแปรได้อย่างเรียบร้อย
\ No newline at end of file
...@@ -4,7 +4,6 @@ ...@@ -4,7 +4,6 @@
\contentsline {subsection}{\numberline {1.3}รูปแบบในการทดลอง}{2}{subsection.1.3}% \contentsline {subsection}{\numberline {1.3}รูปแบบในการทดลอง}{2}{subsection.1.3}%
\contentsline {subsection}{\numberline {1.4}ขั้นตอนลำดับวิธีทดลอง}{4}{subsection.1.4}% \contentsline {subsection}{\numberline {1.4}ขั้นตอนลำดับวิธีทดลอง}{4}{subsection.1.4}%
\contentsline {section}{\numberline {2}ผลลัพธ์และการอภิปราย (Results and discussion)}{7}{section.2}% \contentsline {section}{\numberline {2}ผลลัพธ์และการอภิปราย (Results and discussion)}{7}{section.2}%
\contentsline {subsection}{\numberline {2.1}ผลลัพธ์การทดลองรูปแบบที่ 1}{7}{subsection.2.1}% \contentsline {subsection}{\numberline {2.1}ผลลัพธ์การทดลอง}{7}{subsection.2.1}%
\contentsline {subsection}{\numberline {2.2}ผลลัพธ์ประสิทธิภาพด้านการตรวจจับการโจมตี}{7}{subsection.2.2}% \contentsline {subsection}{\numberline {2.2}สรุปผลการทดลอง}{9}{subsection.2.2}%
\contentsline {subsection}{\numberline {2.3}สรุปผลการทดลอง}{8}{subsection.2.3}% \contentsline {subsection}{\numberline {2.3}ข้อเสนอแนะ}{10}{subsection.2.3}%
\contentsline {subsection}{\numberline {2.4}ข้อเสนอแนะ}{8}{subsection.2.4}%
No preview for this file type
Markdown is supported
0% or
You are about to add 0 people to the discussion. Proceed with caution.
Finish editing this message first!
Please register or to comment